มหาตมะ
คานธี นักสู้ “อหิงสา”
โมหันทาส กรามจันท คานธี
หรือมหาตมะ คานธี
เกิดในครอบครัวฮินดู วรรณะแพทย์
ในจังหวัดโปรพันทาร ประเทศอินเดีย
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2412 ฐานะทางครอบครัวถือว่าร่ำรวย
เมื่อเขาอายุได้เพียง 14 ปี ได้แต่งงานกับกัสตูรไบ หญิงวัยเดียวกันตามประเพณีฮินดูที่พ่อแม่ได้จัดขึ้น
ต่อมาได้มีบุตร 4 คน คานธีเป็นคนที่นิสัยอยากรู้อยากเห็น เป็นคนขี้อาย
เมื่อคานธีอายุได้ 19 ปี ได้จากภรรยาและบุตรไปศึกษาวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในลอนดอน
ประเทศอังกฤษ เมื่อสำเร็จการศึกษากลับมาที่อินเดียแล้ว
ได้ตัดสินใจทำงานให้กับบริษัทกฎหมายอินเดียแห่งหนึ่งที่ต้องการให้เขาไปที่แอฟริกาใต้
ซึ่งสมัยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรภพอังกฤษ ชาวอินเดียที่เดินทางไปที่นั่น
จะถูกดูถูกดูแคลนจากคนผิวขาว
ขณะเดินทางเขาถูกตำรวจคนหนึ่งโยนออกมาจากรถไฟพร้อมกับสัมภาระ เขาต้องทนกับความเหน็บหนาวอย่างโกรธแค้น
แม้ว่าเขาจะมีตั๋วรถไฟชั้นหนึ่งก็ตามที
เหตุการณ์นี้เป็นชนวนที่ทำให้เขาทำงานเพื่อสิทธิ และ
เสรีภาพให้กับคนอินเดียในแอฟริกาใต้ถึง 21 ปี โดยใช้ “กฎสัตยาเคราะห์”
หรือการไม่ใช้ความรุนแรง อีกทั้งยังคงต่อสู้ทางกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน เขาเป็นแนวหลักในการจัดตั้งชุมชนชาวนา
บ้านอธิษฐาน, ฟาร์มตอยสตอย ,อาศรมสาบรามาติ
เพื่อชาวอินเดีย โดยมีกัสตูรไป
ภรรยาของเขาคอยช่วยเหลือ
เมื่อภารกิจในแอฟริกาใต้เสร็จสมบูรณ์
คานธีได้เดินทางกลับอินเดีย
ได้เห็นว่าคนอินเดียมีความยากจนกันมาก
จึงได้ขอร้องให้คนอินเดียทิ้งผ้าของอังกฤษทั้งหมดแล้วหันมาผลิตผ้ากันเอง
หรือซื้อเสื้อผ้าของอินเดีย ส่งผลให้คนส่วนใหญ่มีงานทำ เพราะว่าขณะนั้นอินเดียอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ
จึงเป็นขั้นตอนเดียวที่จะทำให้อินเดียก้าวไปสู่อิสรภาพ คานธียอมเสียสละความสุขส่วนตัวของตนเอง
เพื่ออิสรภาพของประเทศ และเพื่อชาวอินเดียทุกคน
หลายครั้งที่เขาถูกจับคุมขังขณะที่เป็นแกนนำหลักในการเรียกร้องสิทธิ
เสรีภาพของจักรพรรดิของอังกฤษ แต่เขาก็สามารถออกมาต่อสู้
ประท้วงความถูกต้องได้อีกเสมอๆ
คานธีเผยแผ่หลักอหิงสาให้กับคนทั้งอินเดียได้เข้าใจ
หลายครั้งที่เขาประท้วงโดยการอดอาหารจนร่างกายอ่อนแอ แต่เขาก็ยังไม่ย่อท้อ
เพราะมีภรรยาของเขาคอยดูแล
เมื่อต่อมาภรรยาของเขาได้เสียชีวิตลง ช่วงนั้นเป็นเวลาที่ร่างกายของคานธีย่ำแย่ลงมากที่สุด
วันที่ 30 มกราคม 2491 คานธีถูกลอบสังหารโดย
นาธูรัม กอดส์
ชาวฮินดูหัวรุนแรงที่ปะปนอยู่ในหมู่ฝูงชนที่มาชุมนุมสวดมนต์ต่อหน้าสาธารณชน
โดยได้ลั่นกระสุนปืนพกลูกโม่ใส่เขา 3 ครั้งนัดซ้อนจน คานธี
ทรุดลงฮวบลงพร้อมพึมพำนามของพระเจ้าว่า “เฮ รามา”
ที่มา
: ธงไชย พรหมปก. มหาตมะ คานธี นักสู้ “อหิงสา”. พิมพ์ครั้งที่ 1 2537 กรุงเทพฯ: พิมพการณ์ การพิมพ์
นางสาวบานชื่น ผกามาศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น